Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the acf domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/bkkpenth/domains/bkkpenthouse.com/public_html/wp-includes/functions.php on line 6121
นโยบายความเป็นส่วนตัว – Penthouse Thailand

ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (สำหรับบุคคลภายนอก)

บริษัท เดอะ บางกอก เรซิเดนซ์ 88 จำกัด และบริษัทในเครือ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท เดอะ บางกอก เรซิเดนซ์ 88 จำกัด ซึ่งต่อไปนี้ จะเรียกรวมว่า “บริษัท” มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า “การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทจึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการอันเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไข ต่าง ๆ ในการเก็บ รวมรวบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี

  1. ข้อมูลส่วนบุคคล

    “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

   ในการเก็บรวบรวม และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบริษัท จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัด เพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัท อันประกอบด้วย

  • 2.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเกิด, เลขประจำตัวประชาชน, เลขที่หนังสือเดินทาง, เลขใบขับขี่, ลายมือชื่อ, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สถานภาพสมรส, ตำแหน่ง, อาชีพ, ประวัติการทำงาน หรือเอกสารราชการอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ เป็นต้น
  • 2.2 ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล เป็นต้น
  • 2.3 ข้อมูลเอกสารทางราชการ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือ เดินทาง, เลขที่ใบต่างด้าว เป็นต้น
  • 2.4 ข้อมูลทางการเงิน เช่น สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร, ข้อมูลเลขบัตรเครดิต เป็นต้น
  • 2.5 ข้อมูลที่ได้จากเก็บรวบรวมของบริษัท หรือระบบอัตโนมัติจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ของบริษัท เช่น หมายเลข HN, หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการใช้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภายเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชี Social Media, Chat, Geolocation เป็นต้น
  •    โดยบริษัท จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้
    • เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการ ให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัท
    • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
    • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
    • เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของบริษัท กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมใน การดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัท จะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น
    • เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์ สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และ เสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
    • เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่ บริษัท ได้รับมอบหมาย
  •  
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

    บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูล ความพิการ ศาสนา ข้อมูลชีวภาพ โดยบริษัทจะทำการขอคำยินยอมจากท่านทุกครั้งในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือเปิดเผย เว้นแต่

  • 3.1 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตราต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • 3.2 เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน ให้แก่สมาชิก ผู้ซึ่งเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ซึ่งมีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรตาม วัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอกมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหา กำไรนั้น
  • 3.3 เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • 3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • 3.5 เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ
    • เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การ วินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์
    • ประโยชน์ด้านการสาธารณะสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด
    • การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการ รักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม
    • เการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
    • ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
  •  
  1. แหล่งที่มาของข้อมูล

  • 4.1 ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เข้ารับการรักษา, ตอบแบบสอบถาม, สมัครรับข้อมูลข่าวสาร, เข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด ช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือช่องทางอื่นของบริษัท, การเข้า – ออก ภายในบริษัท, การจัดอบรม, การจัดซื้อจัดจ้าง, การตอบโต้ทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail) หรือการกรอก/ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสาร อื่นๆ ระหว่างบริษัทและท่าน
  • 4.2 ข้อมูลจากบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น ญาติ, คนในครอบครัว
  • 4.3 ข้อมูลจากระบบอัตโนมัติ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น ข้อมูลจาก เครื่องมือทางการแพทย์
  • 4.4 ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานพันธมิตร หน่วยงานราชการ หรือ บริษัทในเครือ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ผู้ใช้บริการได้มอบไว้ให้
  1. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่แจ้ง ขณะเก็บรวบรวมข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากบริษัทฯ ดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว

  • 5.1 เพื่อเข้าทำสัญญา หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูล หรือปฏิบัติ หน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล
  • 5.2 ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนลูกค้า
  • 5.3 เพื่อให้ข้อมูลและแนะนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือประชาสัมพันธ์ทางการตลาดรายการ ส่งเสริมการขาย หรือสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูล
  • 5.4 เพื่อจัดส่งสินค้าและการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการหรือข้อร้องเรียนต่าง ๆ
  • 5.5 ใช้ในการดำเนินกิจการ ประเมินผล และปรับปรุงธุรกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
  • 5.6 ดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การออกใบกำกับภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด
  • 5.7 เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การบันทึกเสียงการร้องเรียนผ่านระบบ Call Center การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV การบันทึก เข้า – ออก ภายในบริษัทฯ
  • 5.8 การปฏิบัติตามกฎของบริษัทฯ
  • 5.9 การสมัครงาน การเป็นพนักงาน และ/หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
  • 5.10 ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ
  • 5.11 ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การให้บริการหลังการขาย การรับเรื่องร้องเรียน
  • 5.12 อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่ผู้ใช้บริการ
  • 5.13 จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับ โปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
  • 5.14 สำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
  • 5.15 วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน
  1. การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัท จะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำ ยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้

  • 6.1 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้บริษัท อาจจำเป็นต้อง เปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก ดังต่อไปนี้
    • ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
    • ตัวแทน หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่บริษัท หรือดำเนินการใด ๆ ในฐานะตัวแทนของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง, ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร ผู้รับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาดและ สื่อโฆษณา ผู้รับจ้างพัฒนาและดูและระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายหรือภาษี เป็นต้น
    • หุ้นส่วนทางธุรกิจ
    • ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัท จะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  • 6.2 บริษัท อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ โดยจะเป็นการประมวลผล ข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
  • 6.3 กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย
  1. การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ

    บริษัท อาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยจะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง หรือหน่วยงานปลายทางมีมาตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ

  1. การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัท ได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อม ทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

  1. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

    บริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการ ประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วย เหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท บริษัท อาจมีความ จำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ

  1. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

    บริษัท อาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ www.thebkkresidence.com พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด บริษัท แนะนำให้ท่าน ตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางเว็บไซต์ของบริษัท ต่อไปหลังจาก ที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวจะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว

  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

  • 11.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิจะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ มีข้อจำกัด สิทธิโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
  • 11.2 สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ กรณีที่บริษัท มีสิทธิปฏิเสธคำขอ ของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความ เสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • 11.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลบุคคลให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ การแก้ไขดังกล่าว บริษัท สามารถดำเนินการได้แม้ท่านจะไม่ร้องขอ
  • 11.4 สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปน ๆ
    • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัท ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป
    • เมื่อท่านคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัท ไม่มีอำนาจ ตามกฎหมายที่จะปฏิเสธได้
      เว้นแต่ กรณีบริษัท มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
  • 11.5 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัท ได้ทำให้ข้อมูล ส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เว้นแต่ โดยสภาพทาง เทคนิคไม่สามารถทำได้ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตาม กฎหมาย หรือการใช้สิทธิละเมิดต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • 11.6 สิทธิในการขอคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใด ก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
    • กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัท ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายเว้นแต่ บริษัท ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    • เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
    • เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นเพื่อ ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
  • 11.7 สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
    • เมื่อบริษัท อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านได้ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้อง เป็น ปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    • เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือหรือทำลาย
    • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมดความจำเป็น เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บ รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการ ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    • เมื่อบริษัท อยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิในการปฏิเสธคำขอการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • 11.8 ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิ สามารถใช้สิทธิได้ที่ ขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือติดต่อเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูล ของท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง

  1. ช่องทางการติดต่อ

    บริษัท เดอะ บางกอก เรซิเดนซ์ 88 จำกัด
    เลขที่ 193/47 อาคารเลครัชดา ชั้น 12A โซนเอ ถนนรัชดาภิเษก
    แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
    โทรศัพท์: 1319 ต่อ 3
    E-mail: dpo@thebkkresidence.com
    ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (สำหรับบุคคลภายนอก) ฉบับนี้ ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 2022-05-08